พิชิตฝันอเมริกา: แชร์เคล็ดลับขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาฉบับคนโสด



นี่คือฉบับแก้ไขเนื้อหาของคุณเป็นภาษาไทย (TH) โดยใช้สไตล์ที่น่าดึงดูดใจ มีชีวิตชีวา และเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งคงโครงสร้างและประเด็นหลักของข้อความต้นฉบับไว้ และเพิ่มองค์ประกอบที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มความสนใจของผู้อ่านหากเหมาะสม

ฝันที่เป็นจริง! ✨ วีซ่าอเมริกาในวัย 20 กว่าๆ ของคนโสดสายติสท์! 🗽🇺🇸

รีวิวละเอียดยิบ! ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริกาด้วยตัวเอง ฉบับคนจริง ไม่พึ่งเอเจนซี่! 😎

สวัสดีค่าทุกคน! 🙏 ในที่สุดฝันก็เป็นจริง! สาวโสดวัย 2x อย่างเราก็ได้วีซ่าอเมริกามาครอบครองแล้ว! 🎉🎉🎉 ดีใจแบบบอกไม่ถูก! 🥰 ช่วงนี้อินเลิฟกับชีวิตสุดๆ! 😍 แล้วก็มีเพื่อนๆ ถามเข้ามาเยอะมากว่าขอวีซ่ายังไง เลยขอมานั่งร่ายยาวประสบการณ์ให้ทุกคนอ่านกันค่ะ! เรื่องมันเริ่มมาจากตอนไปสิงคโปร์ แล้วเจอเพื่อนชาวอินโดฯ ทักว่า "เธอไม่เคยไปต่างประเทศเลยเหรอ? งั้นไปสิงคโปร์แล้วกลับมาขอวีซ่าอเมริกาง่ายกว่านะ (เหมือนเป็นการประทับตราพาสปอร์ต)" หลังจากนั้นประมาณเดือนกว่าๆ เพื่อนก็แจ้งข่าวดีว่าได้วีซ่าแล้ว! เราเลยรู้สึกสนใจและเริ่มศึกษาข้อมูล แล้วก็เริ่มกระบวนการขอวีซ่าของตัวเอง! บอกเลยว่าเราศึกษาเองทุกขั้นตอน กรอกฟอร์มเอง ไปสัมภาษณ์เอง ไม่ได้ผ่านบริษัทหรือเอเจนซี่ใดๆ ทั้งสิ้น! 💪 เพราะคิดว่าขอไปงั้นๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ไม่ได้คิดว่าจะได้ด้วยซ้ำ! 😅 แต่ถ้าใครขี้เกียจศึกษาเอง ก็สามารถใช้บริการบริษัทที่รับทำวีซ่าได้นะคะ 😉 ✅ วีซ่าอเมริกามีหลายประเภทและมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน แต่ที่คนขอเยอะที่สุดก็คือวีซ่าท่องเที่ยว B1/B2 เราทำประเภทนี้ เลยจะรีวิวประเภทนี้ให้ฟังนะคะ ❌ เข้าเรื่องเลย! วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามี 4 ขั้นตอนหลักๆ คือ: กรอกฟอร์ม, จ่ายเงิน, นัดหมายสัมภาษณ์, และไปสัมภาษณ์ ✅ **ขั้นตอนที่ 1: กรอกฟอร์ม DS-160** * เข้าไปกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ตามลิงก์นี้เลยค่ะ: [https://ceac.state.gov/genniv/](https://ceac.state.gov/genniv/) * กดที่ลิงก์ด้านบน เลือกประเทศเป็นไทย (Thailand) แล้วพิมพ์รหัส capcha จากนั้นกด "Start an Application" จะปรากฏหน้าใหม่ที่มีรหัส APPLICATION ID (สำคัญมาก ต้องจดไว้!) เพราะฟอร์มมันยาวมากกกกก! 😫 หลังจากกรอกข้อมูลในแต่ละหน้าเสร็จแล้ว ให้บันทึกไว้ก่อน แล้วค่อยทำต่อ เผื่อว่ากรอกนานเกินไป ระบบจะตัดออก เราจะได้ใช้รหัส APPLICATION ID เปิดฟอร์มขึ้นมาทำต่อจากส่วนที่บันทึกไว้ได้ * รหัสนี้มีอายุ 30 วันนะคะ ถ้าเกิน 30 วันแล้วยังกรอกไม่เสร็จ ฟอร์มจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ เราจะไม่สามารถเปิดขึ้นมาทำต่อได้ ต้องเริ่มใหม่หมดเลยค่ะ! 😱 * ในส่วนของการกรอกฟอร์ม ส่วนใหญ่ก็เป็นข้อมูลส่วนตัวทั่วไป ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แต่ต้องกรอกข้อมูลตามความเป็นจริงทุกอย่าง! ถามอะไรก็ตอบอย่างนั้น และต้องถูกต้อง 100%! มีบางส่วนที่ต้องระวังเป็นพิเศษดังนี้ค่ะ: * **ส่วน Travel:** จะให้เรากรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางไปอเมริกา (ถ้ามีแผนการเดินทางที่แน่นอนแล้ว) หรือกรอกคร่าวๆ เกี่ยวกับทริปอเมริกาของเราก็ได้ แต่ก็ควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล เช่น จะพักที่โรงแรมไหน (อันนี้อาจจะจองโรงแรมใน booking ไว้ก่อน แล้วเอาข้อมูลมากรอก), จะเดินทางตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงวันที่เท่าไหร่ ส่วนข้อมูลการติดต่อ เราใช้ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมที่เราจองไว้ค่ะ * **ส่วน U.S contact:** ส่วนนี้ตอนแรกเราก็งงๆ ไม่รู้จะกรอกอะไรดี 🧐 เพราะเขาถามว่ามีญาติหรือคนสนิทอยู่ที่อเมริกาไหม? ถ้าไม่มี ก็ถามว่าได้จองทัวร์หรือมีบริษัทอยู่ที่นั่นไหม แล้วต้องให้ข้อมูลการติดต่อด้วย ซึ่งเราไปเที่ยวเอง ไม่ได้ไปกับทัวร์ หลังจากนั้นเราเลยกรอกที่อยู่และข้อมูลการติดต่อของโรงแรมที่เราจองไว้ใน booking ค่ะ * **ส่วน Family:** ก็กรอกข้อมูลตามจริงเลยค่ะ ไม่มีอะไรยาก * **ส่วน Work/Education:** ส่วนนี้ก็ควรเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา ประวัติการทำงานตั้งแต่ก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบัน และประวัติการเดินทางของเราให้ละเอียดที่สุด ยิ่งละเอียดเท่าไหร่ยิ่งดี เพื่อให้เขารู้จักเรามากขึ้น และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าเรามีภาระผูกพันกับงาน และเราจะกลับมาประเทศไทยแน่นอน! (ส่วนนี้เราเน้นเขียนเกี่ยวกับงานของเราที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เราคิดว่ามันเป็นแต้มต่อในโปรไฟล์ของเราค่ะ) ประเทศที่เราเคยไปเที่ยวมาก็ควรระบุให้ครบและละเอียด ประวัติการเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ในการพิจารณาวีซ่า ถ้าพาสปอร์ตขาว หรือมีแค่ 1-2 ประเทศ โอกาสที่จะได้วีซ่าค่อนข้างยากค่ะ * สุดท้ายก็คืออัปโหลดรูปถ่าย (พื้นหลังสีขาว ขนาด 5x5 ซม., ห้ามรีทัช) แล้วก็ submit ฟอร์ม * หลังจาก submit ฟอร์มแล้ว จะมีอีเมลยืนยันส่งกลับมาพร้อมกับรูปที่เราอัปโหลด + รหัส QR code * พิมพ์เอกสารยืนยันนั้นออกมา 2 ชุด ชุดหนึ่งเอาไว้ใช้ตอนไปจ่ายเงิน อีกชุดเอาไว้ใช้ตอนไปสัมภาษณ์ * โดยรวมแล้ว ขั้นตอนการกรอกฟอร์มก็มีแค่นี้ ง่ายมาก แต่ก็ค่อนข้างยาว และก็ควรใส่ใจกรอกข้อมูลให้ละเอียดและเป็นความจริง เพราะนี่คือพื้นฐานแรกที่เขาจะใช้ประเมินว่าควรจะให้วีซ่าเราหรือไม่ ✅ **ขั้นตอนที่ 2: จ่ายเงิน** * สร้างบัญชีตามลิงก์นี้เลยค่ะ: [https://atlas.my.salesforce-sites.com/?language=English...](https://atlas.my.salesforce-sites.com/?language=English...) * สร้างบัญชีเสร็จแล้วก็กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องตามที่เว็บไซต์กำหนด * จากนั้นเลือก "Schedule My Appointment" ที่มุมซ้ายของจอ แล้วทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ จนถึงส่วนของการชำระเงิน ให้เลือกจ่ายที่ไปรษณีย์ เมื่อเลือกแล้ว จะได้รหัสชำระเงินวีซ่าอเมริกา พิมพ์รหัสชำระเงินนั้น + ใบยืนยัน DS-160 ไปจ่ายที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านได้เลยค่ะ * บอกพนักงานว่ามาจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา เขาจะรู้และเรียกเก็บเงิน (160 USD ~ 4,000 บาท) * จ่ายเงินเสร็จแล้วจะได้ใบเสร็จเก็บไว้ให้ดี เอาไว้ใช้ในวันสัมภาษณ์ ✅ **ขั้นตอนที่ 3: นัดหมายสัมภาษณ์** * หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้ว 1 วัน ให้กลับเข้าไปที่บัญชี ustraveldoc ที่เราสมัครไว้เมื่อวาน ระบบจะอัปเดตข้อมูลและแสดงวันที่ว่างให้เราเลือกวันสัมภาษณ์ได้ เมื่อเลือกวันสัมภาษณ์เสร็จแล้ว จะมีอีเมลยืนยันการนัดหมายสัมภาษณ์ส่งมาให้ทางอีเมล พิมพ์เอกสารยืนยันนั้นออกมาเป็นอันเสร็จ ✅ **ขั้นตอนที่ 4: สัมภาษณ์** * เอกสารที่ต้องเตรียมไปในวันสัมภาษณ์ (เอกสารบังคับ): 1. ใบเสร็จการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าจากไปรษณีย์ 2. เอกสารยืนยันการนัดหมายสัมภาษณ์ 3. หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ตัวจริง 4. บัตรประชาชนตัวจริง 5. สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่แน่ใจว่ายังต้องใช้อยู่ไหม เพราะตอนนี้ยกเลิกใช้ทะเบียนบ้านแล้ว) 6. สูติบัตรตัวจริง 7. เอกสารยืนยัน DS-160 ที่มี QR code 8. รูปถ่ายขนาด 5x5 ซม. พื้นหลังสีขาว (2 รูป) ห้ามรีทัช * เอกสารที่ควรเตรียมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้วีซ่า และเผื่อเจ้าหน้าที่กงสุลถาม จะได้โชว์ให้ดูได้: * Booking ตั๋วเครื่องบิน + โรงแรม ถ้ามีแผนการเดินทางที่แน่นอนแล้ว * เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน, โฉนดที่ดิน, สมุดบัญชีเงินฝาก, รายการเดินบัญชีธนาคาร, สลิปเงินเดือน... * พูดง่ายๆ ก็คืออะไรที่แสดงให้เห็นว่าเรามีฐานะทางการเงิน หรือมีภาระผูกพัน ก็ควรเอาไปให้หมด แม้ว่าเขาอาจจะไม่ถามถึงเลยก็ตาม * ในกรณีของเรา เราเตรียมสมุดบัญชีเงินฝาก 100,000 บาท (เพิ่งเอาเงินเข้าบัญชีก่อนไปสัมภาษณ์ไม่กี่วัน), รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน นอกนั้นไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย แต่เขาก็ไม่ได้ถามถึง * มาถึงส่วนของการสัมภาษณ์ * ควรไปถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์อย่างน้อย 30 นาที เพื่อหาที่จอดรถ แล้วก็ไปเข้าแถวรอข้างใน ภายในสถานทูต/สถานกงสุล อนุญาตให้พกแค่เอกสารเข้าไปได้เท่านั้น (โทรศัพท์มือถือสามารถฝากไว้ตรงจุดตรวจรักษาความปลอดภัย หรือเก็บไว้ที่บ้านเลยก็ได้) * เข้าแถวตรวจรักษาความปลอดภัยเข้าไปข้างใน เดินเบาๆ พูดจาไพเราะ ยิ้มแย้มแจ่มใส 😊 ผ่านจุดตรวจเอกสาร แล้วไปสแกนลายนิ้วมือ จากนั้นก็ไปรอสัมภาษณ์ แต่ละคนมีเวลาสัมภาษณ์แค่ไม่กี่นาที เร็วมาก! * สามารถตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็ได้ (ขึ้นอยู่กับความสามารถและวัตถุประสงค์ของแต่ละคน) * ในวันที่เราไปสัมภาษณ์ เราอยากจะตอบเป็นภาษาไทยเพื่อให้คำตอบชัดเจน แต่เราก็ทักทายเจ้าหน้าที่เป็นภาษาอังกฤษ และพูดประโยคภาษาอังกฤษว่า "Can I answer by Vietnamese for clearly my answer" เจ้าหน้าที่ก็โอเค แล้วถามคำถามเป็นภาษาไทยเลย แบบนี้จะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เวลาไปเที่ยวเอง และยังสามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจนและมั่นใจ เราเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษเสมอไป แค่แสดงให้เห็นว่าเรามั่นใจและตอบคำถามได้ชัดเจนก็โอเคแล้ว * เราถูกถามแค่ 4 คำถาม: มาอเมริกาทำอะไร, ทำอาชีพอะไร, มีญาติอยู่ที่อเมริกาไหม, และโสดหรือแต่งงานแล้ว เราตอบตามความจริงทุกอย่าง ในส่วนของคำถามว่ามาอเมริกาทำอะไร เราจะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยว่าจะไปเมืองไหนบ้าง ไม่ได้ตอบแค่ว่ามาเที่ยวอเมริกา ส่วนคำถามว่าทำอาชีพอะไร เราก็ตอบรายละเอียดเกี่ยวกับงานของเราที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และทำไมเราถึงทำงานนี้ และชอบการท่องเที่ยวมาก แค่ 4 คำถามนี้ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า "Congratulations! You got the visa!" แล้วก็เก็บพาสปอร์ตเราไป หลังจากนั้น 2 วัน พาสปอร์ตก็ถูกส่งมาที่บ้าน * สรุปแล้ว หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ เราคิดว่าวีซ่าอเมริกาก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด อาจจะต้องอาศัยโชคช่วย ความมั่นใจของเรา แต้มต่อที่สำคัญที่สุดคือความซื่อสัตย์และให้รายละเอียดในการกรอก DS-160 ความมั่นใจในการสัมภาษณ์ + ประวัติการเดินทางที่ดี ก็มีโอกาสสูงมากที่จะได้วีซ่าอเมริกาแล้วค่ะ * บทความนี้อาจจะยาวหน่อย แต่เป็นประสบการณ์ที่เราอยากจะแบ่งปันให้กับคนที่กำลังเตรียมตัวและจะขอวีซ่าอเมริกาในอนาคต หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย ส่งต่อความโชคดี ส่งต่อพลังบวก ส่งต่อวิตามินท่องเที่ยว! ✈️🌴☀️ หวังว่าการปรับแก้เนื้อหาในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และถูกใจนะคะ! 😊

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า