
วังเวียง: สวรรค์แห่งธรรมชาติที่ต้องห้ามพลาดในลาว (Vang Vieng: Thiên đường thiên nhiên không thể bỏ lỡ ở Lào)

วังเวียง ลาว มีอะไรดี? สวรรค์ของนักผจญภัยที่ต้องไปโดน!
หลังจากประสบการณ์สุดประทับใจที่ประเทศลาวแสนสงบและเป็นมิตร ฉันอดไม่ได้ที่จะต้องรีวิวเพื่อแบ่งปันความงามของประเทศเพื่อนบ้านให้คนไทยได้รู้จักมากยิ่งขึ้น! รับรองว่าอ่านจบแล้ว วางแผนเที่ยวลาวกันแน่นอน! ทริปนี้กี่วัน? เดินทางยังไง?
* **จำนวนวัน:** 4 วัน 3 คืน (เวียงจันทน์ 1 คืน, วังเวียง 2 คืน) * **การเดินทาง:** * **กรุงเทพฯ - เวียงจันทน์:** บินตรง! ประหยัดเวลาสุดๆ (ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ) * **เวียงจันทน์ - วังเวียง:** รถบัสโดยสาร (ประมาณ 2 ชั่วโมง บนถนนไฮเวย์) * **ช่วงเวลาที่แนะนำ:** เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ อากาศดี๊ดี! กลางวันแดดจ้า (ประมาณ 30 องศา) แต่เช้าตรู่และตอนเย็นอากาศเย็นสบาย * **ภาษา:** ไม่ต้องกังวล! ตามแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ คนลาวพูดภาษาไทยได้เยอะมาก! (ภาษาอังกฤษอาจจะไม่คล่องเท่าไหร่) ตะลุยลาว 4 วัน 3 คืน ไปไหนดี?
วันที่ 1: เวียงจันทน์ เมืองหลวงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์
เวียงจันทน์อาจจะไม่ใหญ่โต แต่มีที่เที่ยวเด่นๆ ให้แวะไปเช็คอินเพียบ! ตอนเย็นอย่าพลาดไปเดินเล่นตลาดกลางคืนริมแม่น้ำโขง มองไปฝั่งตรงข้ามคือประเทศไทย! ถึงตลาดจะไม่หวือหวา แต่เดินเล่นชมบรรยากาศก็เพลินดีนะ แต่ที่เด็ดกว่าคือ…เดินลึกเข้าไปในซอยเล็กๆ ข้างถนนริมน้ำ! จะเจอกับ "ถนนคนเดิน" สไตล์ฝรั่ง มี Food Court อาหารนานาชาติให้เลือกชิม ทั้งของย่าง ส้มตำ อาหารทะเลสดๆ ผลไม้หลากชนิด แถมยังมีร้านอาหารริมทาง ร้านกาแฟ บาร์เล็กๆ ให้เลือกนั่งชิลล์ ฟังดนตรีสดเพราะๆ อีกด้วย วันที่ 2: เวียงจันทน์ สู่ วังเวียง
ช่วงเช้า ไปเก็บแต้มแลนด์มาร์คสำคัญของเวียงจันทน์กัน! * **ประตูชัย (Patuxay):** สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของชาวลาวเหนือฝรั่งเศส ขึ้นไปด้านบนเพื่ออ่านประวัติศาสตร์และข้อมูลเปรียบเทียบกับประตูชัยในฝรั่งเศสได้ด้วยนะ! * **พระธาตุหลวง:** สัญลักษณ์บนเงินกีบ! พระธาตุสีทองอร่าม 4 ด้าน สร้างด้วยทรงเจดีย์ปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า เป็นวัดที่สวยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในลาว! * **วัดสีเมือง:** วัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเวียงจันทน์! มีตำนานเกี่ยวกับนางสีเมือง ลองไปขอพรเพื่อความสงบสุขและความโชคดีด้วยการผูกข้อมือด้วยด้ายสายสิญจน์ (ตามความเชื่อท้องถิ่น ควรสวมไว้อย่างน้อย 3 วัน และเก็บไว้ในกระเป๋าเงินเมื่อถอดออก) **ช่วงบ่าย:** เดินทางจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง ใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมง บนถนนไฮเวย์! วังเวียงอาจจะมีฝุ่นเยอะไปหน่อย แต่พอไปถึงที่พักริมแม่น้ำซองก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง! เราพักที่ **Vieng Tara Resort** รีสอร์ทที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวบอลลูนสุดปัง! มองเห็นทุ่งนาสีเขียวขจีและภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก จะเห็นบอลลูนค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า สวยจนไม่อยากละสายตา! วันที่ 3: วังเวียง แอดเวนเจอร์!
วังเวียงเป็นสวรรค์ของนักผจญภัย! มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก! ไม่ว่าจะเป็น: * **Zip line:** โหนสลิงสุดมันส์! ยาวกว่า 1 กิโลเมตร มี 9 สถานี! นอกจากความตื่นเต้นแล้ว ยังได้ชมวิวหุบเขาจากมุมสูงอีกด้วย! * **พายเรือคายัคในแม่น้ำซอง:** ชิลล์ๆ ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำ * **สำรวจถ้ำ:** ผจญภัยในถ้ำต่างๆ ที่วังเวียง * **ขึ้นบอลลูน:** ชมวิววังเวียงแบบพาโนรามา * **พาราไกลดิ้ง:** บินลัดฟ้าชมวิวสวย * **Blue Lagoon:** เล่นน้ำในสระสีฟ้าคราม (Blue Lagoon 2 น้ำใสที่สุด!) วันที่ 4: ชิลล์ๆ ก่อนกลับบ้าน
วันนี้ตื่นเช้ามานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกลิ่นหอมของทุ่งนา! ทางรีสอร์ทเสิร์ฟอาหารเช้าที่ระเบียงห้องพัก เป็นเซ็ตอาหารน่ารักๆ ในถาดหวายและชามเล็กๆ ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ช่วงบ่าย เดินทางจากวังเวียงกลับเวียงจันทน์ แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารบนเรือริมแม่น้ำซอง ก่อนบอกลาลาว กลับประเทศไทย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวลาวนะ! รับรองว่าไปแล้วจะต้องหลงรักแน่นอน!