[รีวิว] Wonder of the Seas: มหัศจรรย์แห่งท้องทะเลที่ต้องไปสัมผัส!
จากประสบการณ์จริงของคนรักการเดินทาง
หลังจากเพื่อนรีวิวเรือ Costa ไปแล้ว ขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์สุดว้าวบนเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ตอนนี้บ้าง นั่นก็คือ...
🛳 Wonder of the Seas 🛳 มหัศจรรย์แห่งท้องทะเลที่เรากับสามีเพิ่งไปสัมผัสมาหมาดๆ! 💋 ทริปล่องเรือ 7 วัน 7 คืน ที่ยังตราตรึงใจไม่รู้ลืมความรู้สึกเหมือนยังล่องลอยอยู่บนเรือ ความสุขยังสดใหม่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน นึกย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2022 ตอนที่กำลังเหงาๆ น้องสาวก็ทักมา ชวนไปเที่ยวฝรั่งเศส ชวนไปขึ้น Cruise พร้อมแนะนำเรือ Wonder ว่าใหญ่ที่สุด อลังการที่สุด และทริปนี้จะเป็นรอบปฐมฤกษ์ พวกเราจะเป็นสักขีพยานแห่งประวัติศาสตร์ เหมือน Titanic บลาๆๆ สรุปคือ...ตกลง! เตรียมขอวีซ่าแล้วไปลุยกันเลย 😉
เราสองคนบินจากไทยไปปารีส -> มาร์เซย์ -> Aix en provence ไปเจอน้องสาวและสามี -> ขับรถ 5 ชั่วโมงไปท่าเรือบาร์เซโลน่า เพื่อเช็คอินขึ้นเรือ พอเรือปรากฏต่อหน้า...โอ้โห! อลังการเหมือนยักษ์ใหญ่หล่อมาก
เส้นทางเดินเรือของเราคือ จากท่าเรือบาร์เซโลน่า -> เกาะ Palma de mallorca -> Florence/Pisa (Laspezia) อิตาลี -> Civitavecchia, Rome's cruise port -> Napoli -> ล่องทะเล -> บาร์เซโลน่า
ทุกท่าเรือที่เราแวะ เราจะได้ลงไปเที่ยวชมสถานที่ชื่อดังต่างๆ ถ้าจองทัวร์ไว้ รถจะรอรับตอน 8 โมงเช้า แล้วพาไปส่งกลับตอน 5 โมงเย็น จากท่าเรือไปที่เที่ยวจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทางทัวร์จะให้เวลาเที่ยวเองประมาณ 30 นาที แต่ต้องกลับมาให้ตรงเวลา ไม่งั้นทัวร์จะทิ้งคุณไว้ แล้วคุณจะลำบากมาก เพราะเรือจะออกตอน 1 ทุ่ม! 😁 เคยได้ยินประกาศว่ามีนักท่องเที่ยวหายไป 2 คน แต่เรือก็ออกตามกำหนดการ ไม่รอใครทั้งนั้น ดังนั้นต้องระวังเรื่องเวลากันด้วยนะ ถ้าพลาดตกรถ ก็ไม่ต้องตกใจ จับรถไฟหรือซื้อตั๋วเครื่องบินไปขึ้นเรือที่ท่าต่อไปได้เลย ดังนั้น พกพาสปอร์ตและเงินสดติดตัวไว้เสมอ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับทริปนี้ (แบบจัดเต็ม ไม่คิดชีวิต!)
- ค่าตั๋วรวมอาหารบนเรือ: 3,000€/ 2 คน (ลด 30% เพราะจองล่วงหน้า) ราคานี้ขึ้นอยู่กับประเภทห้อง ยิ่งอยู่ชั้นล่างยิ่งถูก
- ค่าทัวร์ (Pisa, Florence, Mallorca, Amalfi, Sorrento) + แพ็กเกจทานอาหารในร้านอาหารแบบ Unlimited: 1,234€/ 2 คน
- ค่าเครื่องดื่มค็อกเทล + กดเงินเล่น Casino บนเรือ + ค่า Wifi 7 วัน: 1,058€ / 2 คน
- ค่าบริการห้องพัก 15€ * 7 คืน = 105€ / ห้อง
- รวมๆ แล้วสองคนใช้ไป 5,397€ สำหรับ 7 คืน (ยังไม่รวมเงินที่เสียใน Casino 😞) OMG!
เช็คอินขึ้นเรือกันเลย!
เหมือนขึ้นเครื่องบินเลยค่ะ ต้องผ่านด่านรักษาความปลอดภัย ถ่ายรูปเก็บข้อมูล และแสดงผลตรวจ PCR (เราต้องไปตรวจที่ร้านขายยาใน Aix ก่อน 1 วัน เสียไป 100 กว่ายูโร 😤) ตอนผ่านด่าน อย่าเอาของปลอมขึ้นเรือนะคะ เขาจะให้ทิ้งไว้ข้างนอกหมดเลย ตอนแวะท่าเรือที่อิตาลี จะมีคนขายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอม หรือของโจรเยอะมาก ห้ามซื้อเด็ดขาด! เพราะตำรวจจะจับปรับทันที ถ้าซื้อของละเมิดลิขสิทธิ์หรือของโจร ที่อิตาลีเข้มงวดเรื่องนี้มาก
พอขึ้นเรือไปรับห้อง จะเจอ Seapass วางไว้หน้าประตู ก็หยิบมาเปิดห้องได้เลย ห้องไม่ใหญ่มาก แต่สะดวกสบาย มีระเบียงให้นั่งชิลล์ แต่เสียดายไม่มีเวลาไปนั่งชมวิวเท่าไหร่
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเข้าห้องคือ ดูวิดีโอแนะนำการหนีภัยทั้งหมด ทำความเข้าใจเสียงสัญญาณเตือน จากนั้นลงไปที่ Deck 4 เพื่อยืนยันว่าได้ดูคลิปแล้ว เป็นอันเสร็จ เริ่มต้นสำรวจเรือได้!
เราพัก Cabine มีระเบียงหันหน้าออกทะเลที่ Deck 14 หัวเรือ (น้องสาวเป็นคนเลือก เพราะน้องบอกว่า Deck 14 เริ่ดและเป็นส่วนตัว ถ้าอยู่ข้างล่างหรือหันหน้าเข้าข้างในจะเสียงดังเพราะคนเดินผ่านไปมา เราก็โอเค ไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่)
มาทำความรู้จัก Wonder of the Seas กันหน่อย!
เนื่องจากเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขอแนะนำข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเรือ:
- Wonder of the Seas – มหัศจรรย์แห่งท้องทะเล เป็นของ Royal Caribbean International (บริษัทนี้มีเรือยักษ์ใหญ่อีกเยอะ) เริ่มก่อสร้างปี 2019 เสร็จปี 2022 ทดลองเดินเรือเดือนมีนาคม และเริ่มให้บริการเดือนพฤษภาคม 2022
- ใหญ่กว่า Titanic 3 เท่า มีความยาว 362 เมตร กว้าง 65 เมตร และหนัก 236,857 ตัน เรือมี 18 ชั้น โดย Deck 17-18 สงวนไว้สำหรับลูกค้า First Class สุดหรูและแพงลิบ 😁 มีห้องพัก 2,867 ห้อง รองรับผู้โดยสารได้ 6,988 คน
- บนเรือเหมือนเมืองเล็กๆ มีทุกอย่างให้กินให้เที่ยว Deck 16 เป็นสวนน้ำกลางแจ้ง มีสไลเดอร์ 3 ราง และสไลเดอร์แห้ง 2 ราง มี Zipline สุดมันส์ สนามกอล์ฟจำลอง โต้คลื่นจำลอง เราชอบ Zipline และโต้คลื่นมาก เล่นกี่รอบก็ไม่เบื่อ แถมยังมีปีนผาในร่ม เสียดายปีนได้แค่ครึ่งเดียวเพราะเจ็บมือ 😑 แน่นอนว่ามี Gym and Yoga Spa ด้วย แต่ใครจะว่างไป 555 มีห้องรับฝากเด็กด้วยนะ พ่อแม่จะได้ปล่อยลูกแล้วไปเที่ยว
- ตอนเย็นจะมีโชว์ต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต – เต้น Hip Hop – สเก็ตน้ำแข็ง แต่ที่พลาดไม่ได้คือ Aquashow การแสดงใต้น้ำที่มีนักกีฬา Olympic 4 คน มาร่วมแสดง ดูแล้วตื่นตาตื่นใจมาก
อาหารเช้า – กลางวัน – เย็น จะทาน Buffet ที่ห้องอาหารของเรือ ถ้าไม่ชอบ Buffet ก็เลือกทาน Dining ได้ นอกจากนี้ยังมีตู้กดน้ำเปล่า – น้ำผลไม้ – Hotdog – Pizza – Salad – ขนมหวาน...ฟรี ตามจุดต่างๆ ให้ทานเล่นถ้าหิวหลังเล่นสนุก
กลุ่มเราซื้อแพ็กเกจทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร 5 ดาว ดังนั้นหน้าที่ของเราคือ กลางวันไปเที่ยว ตอนเย็นกลับมาอาบน้ำแต่งตัวเหมือนในหนังไป Dinner ฟินสุดๆ กลัวแต่งตัวเยอะไปแล้วจะดูเยอะ แต่พอเข้าไปในลิฟต์ จะเห็นคุณผู้ชายใส่สูทผูกหูกระต่าย คุณผู้หญิงใส่ชุดราตรียาวสวยสง่า คลุมผ้าพันคอเบาๆ บนบ่า ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนึ่งของหนัง Titanic ทุกคนแต่งตัวจัดเต็มกันมากในตอนเย็น
เวลาบนเรือไม่เคยพอสำหรับเรา มีอะไรให้ทำและสำรวจเยอะแยะไปหมด เราซื้อ Wifi บนเรือมา แต่ไม่ได้ใช้เท่าไหร่ เพราะอยากใช้ชีวิตให้เต็มที่มากกว่าก้มหน้าจอมือถือทั้งวัน
พนักงานบนเรือไม่ต้องพูดถึง บริการดีและยิ้มแย้มแจ่มใส สิ่งที่ชอบที่สุดคือการทำความสะอาดห้อง แค่เราก้าวออกจากห้อง กลับมาอีกทีห้องก็สะอาดเรียบร้อย เราบอกสามีว่าทำไมพนักงานเก่งจัง รู้ว่าเราออกไปข้างนอกแล้วเข้ามาทำความสะอาดเลย ผ้าเช็ดเท้าในห้องน้ำก็ไม่เคยเหยียบซ้ำ เพราะพออาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมา กลับมาอีกทีก็จะมีผ้าเช็ดตัวผืนใหม่แขวนไว้ให้ เราขอบคุณพนักงานที่ขยันขันแข็งเหล่านั้นมาก
บนเรือส่วนใหญ่เป็นแขกผู้สูงวัย วัยรุ่นอย่างเรามีน้อยมาก และไม่เจอคนไทยเลย เจอแต่คนไทยที่มาจากเยอรมัน – อเมริกา พวกเขาตกใจมากที่เราบินมาจากไทย พวกเขาไม่คิดว่าคนไทยจะมาขึ้น Cruise ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะรูปแบบการท่องเที่ยวแบบนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักในไทย แม้แต่เราเองก็รู้จักแค่คร่าวๆ จากบทความไม่กี่บทความ หวังว่าสักวันคนไทยจะรู้จักการท่องเที่ยวรูปแบบนี้มากขึ้น หรือหวังว่าไทยจะมีท่าเรือน้ำลึกให้เรือสำราญเข้ามาจอดได้บ้าง ตอนนั้นการท่องเที่ยวไทยคงจะพัฒนาไปมาก
โอ๊ย! เขียนเพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ยาวมากแล้ว ไม่รู้จะมีใครอ่านหรือเปล่า 😑 สรุปคือ ถ้าไม่เคยไปก็แล้วไป แต่ถ้าจะไป ไปสักครั้งให้คุ้มค่าไปเลยทุกคน!
ตอนนี้เรากำลังหาข้อมูล Cruise ที่ไปรอบโลกอยู่ เพราะติดใจเข้าแล้ว 🥲
``` **คำอธิบายเพิ่มเติม:** * **ภาษา:** ปรับให้เป็นภาษาไทยที่อ่านง่าย เป็นกันเอง และมีลูกเล่นในการใช้คำ เช่น "สุดว้าว", "จัดเต็ม", "เริ่ด", "ฟินสุดๆ" เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ * **โครงสร้าง:** ใช้ Heading (H1, H2) เพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชัดเจน และใช้ List (UL, LI) เพื่อจัดระเบียบข้อมูลให้ดูง่าย * **SEO:** แทรกคำหลัก เช่น "Wonder of the Seas", "เรือสำราญ", "รีวิว" ใน Heading และเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ยัดเยียด * **HTML:** ใช้ Tag HTML ที่จำเป็นสำหรับการจัดรูปแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับการแสดงผลบน Blogspot และการส่งผ่าน Email * **ความเป็นกันเอง:** ใช้ภาษาพูดที่ดูเป็นกันเอง เช่น "สองคน", "น้องสาว", "เรา" เพื่อสร้างความรู้สึกใกล้ชิดกับผู้อ่าน * **ลูกเล่น:** ใส่ Emoji เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และทำให้เนื้อหาดูมีชีวิตชีวามากขึ้น หวังว่าการปรับปรุงนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ!