เคล็ดลับขอวีซ่าท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ฉบับคนสำเร็จ!

เคล็ดลับขอวีซ่าท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ฉบับคนสำเร็จ!



แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง!

สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้ขอมาแบ่งปันประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบฉบับทำได้จริง หลังจากที่ศึกษาข้อมูลจากรีวิวของหลายๆ คน จนในที่สุดก็สามารถผ่านฉลุย! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวไต้หวันกันนะคะ <3

เอกสารที่ต้องเตรียม

มาดูรายการเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมกันค่ะ เพื่อให้การขอวีซ่าราบรื่นที่สุด:
  1. แผนการเดินทาง (Plan) ชั่วคราว:
    • วางแผนการเดินทางโดยละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ระบุวันเดินทาง วันกลับ
    • ระบุรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำ สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการไป
    • รายชื่อผู้ร่วมเดินทาง: ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, เลขที่บัตรประชาชน/พาสปอร์ต, สถานะวีซ่า (กำลังยื่น/ผ่านแล้ว/Evisa)
    • พิมพ์ Evisa/วีซ่าของคนที่ผ่านแล้วแนบไปด้วย
    • ถ้ามีตั๋วเครื่องบินของคนที่ผ่านแล้ว ให้พิมพ์แนบไปด้วย
    • งบประมาณโดยประมาณ
  2. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ชั่วคราว):
    • จองตั๋วเครื่องบินแบบจ่ายทีหลัง (Pay Later) เราเลือกใช้บริการของ Vietnam Airline โดยตั๋วจะถูกยกเลิกอัตโนมัติภายใน 24 ชั่วโมงถ้าเราไม่ยืนยันการจอง
    • Vietnam Airline จะส่งอีเมลยืนยันการจองตั๋ว ให้พิมพ์ไฟล์นี้แนบไปด้วย
  3. เอกสารยืนยันการจองโรงแรม:
    • จองโรงแรมที่สามารถยกเลิกได้ฟรี เราใช้บริการของ Agoda
    • พิมพ์เอกสารยืนยันการจองโรงแรมแนบไปด้วย
  4. หนังสือรับรองการทำงาน (พร้อมตราประทับบริษัท):
    • หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท พร้อมลายเซ็นและตราประทับ
  5. สัญญาจ้างงาน (ฉบับจริง + สำเนา):
    • สัญญาจ้างงาน (ฉบับจริง) และสำเนาโดยไม่ต้องผ่านการรับรอง
    • ถ้ามีสัญญาจ้างงานแบบไม่จำกัดระยะเวลา ให้นำส่งและถ่ายสำเนาเอกสารแนบทั้งหมด
  6. หนังสือรับรองการทำงาน (พร้อมตราประทับบริษัท):
    • หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท พร้อมลายเซ็นและตราประทับ
    • เอกสารนี้ให้ฝ่ายบุคคลของบริษัทออกให้
  7. ประกันสุขภาพและประกันสังคม:
    • ประกันสุขภาพ: เปิดแอป VssID ไปที่ส่วนของบัตรประกันสุขภาพ ถ่ายรูปหน้าจอและพิมพ์ออกมาให้หมด รวมถึงประวัติการจ่ายเงินประกันสุขภาพ
    • ประกันสังคม: เปิดแอป VssID ไปที่ส่วนของประกันสังคม ถ่ายรูปหน้าจอและพิมพ์ออกมาให้หมด รวมถึงประวัติการจ่ายเงินประกันสังคม
    • ข้อควรจำ: ในขั้นตอนการยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่จะขอให้คุณเปิดแอป VssID เพื่อตรวจสอบ
  8. สมุดบัญชีธนาคาร (ตัวจริง):
    • สมุดบัญชีธนาคาร (ตัวจริง) ที่มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3-6 เดือนขึ้นไป และมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 80,000 บาท
    • ถ่ายสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร (ขนาด A4)
  9. หนังสือรับรองยอดเงินในบัญชี (ถ้ามี):
    • เอกสารนี้อาจมีการขอจากเจ้าหน้าที่บ้าง, บางคนก็ไม่โดน เราแนะนำให้เตรียมไว้เพื่อความอุ่นใจ
  10. กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าออนไลน์:
  11. รูปถ่าย:
    • รูปถ่ายขนาด 4x6 ซม. พื้นหลังสีขาว จำนวน 2 รูป
    • ติดรูปถ่ายทั้ง 2 รูปบนแบบฟอร์มขอวีซ่า
    • ข้อควรจำ: ไม่ต้องตัดรูป, ติดทับลงบนกรอบรูปได้เลย
  12. พาสปอร์ต (Passport):
    • พาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน
    • ถ่ายสำเนาพาสปอร์ต
    • ข้อควรจำ: กรอกข้อมูลส่วนตัวด้วยดินสอในหน้าสุดท้ายของพาสปอร์ต, หน้าที่ 3 ต้องมีลายเซ็นและชื่อเจ้าของพาสปอร์ต
  13. ค่าธรรมเนียมวีซ่า:
    • 50$ (แบบมาตรฐาน) หรือ 75$ (แบบด่วน)
    • ข้อควรจำ: แบงค์ใหม่, ไม่เปื้อน, ไม่เลอะหมึก ควรแลกเงินให้เรียบร้อย เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่รับเงินที่มีรอยเปื้อน
    • มีคนรีวิวว่าเจ้าหน้าที่รับเฉพาะแบงค์ 20$ สองใบ และ 10$ หนึ่งใบ แต่เรายื่น 50$ ไปเลยก็ผ่าน
  14. ข้อควรระวัง: เอกสารทั้งหมดควรเป็นภาษาอังกฤษ หรือมีสองภาษา, ถ่ายเอกสารหน้าเดียว, ใช้กระดาษขนาด A4

ขั้นตอนการยื่นวีซ่า

มาดูขั้นตอนการยื่นวีซ่ากันค่ะ เพื่อให้การเตรียมตัวเป็นไปอย่างราบรื่น

วันที่ 1: การนัดหมายวันยื่นเอกสาร

* หลังจากเตรียมเอกสารครบถ้วน ให้ไปที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป (Văn phòng Kinh tế và Văn hóa Đài Bắc) ที่ 336 Nguyễn Tri Phương, phường 4, quận 10, HCM เพื่อเข้าคิวรับใบนัดหมาย * เนื่องจากมีผู้มายื่นวีซ่าจำนวนมาก เราแนะนำให้ออกไปรอตั้งแต่เช้ามืด ประมาณ 5 โมงเช้า ที่ด้านซ้ายของประตู (บริเวณป้ายรถเมล์) ด้านขวาจะเป็นคิวของผู้ที่มายื่นวีซ่าแต่งงาน * เราจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่ร้านขายน้ำ Dì Mai ที่อยู่ตรงมุมถนนด้านข้างสถานกงสุล หรือจะจอดฝั่งตรงข้ามก็ได้ * จะมีตัวแทนบริษัทรับทำวีซ่ามาถึงก่อนเพื่อจองคิวให้กับลูกค้าของเขา เราก็โชคดีที่เขามาถึงก่อนคนอื่นๆ ส่วนตัวแทนบริษัทอื่นๆ ห้ามแซงคิวเด็ดขาด เพราะมักจะมาสายแต่ชอบแซงคิว โดยเฉพาะหลังจากลูกค้าของตัวแทนคนแรก * จะมีร้านขายน้ำพร้อมบริการให้เช่าเก้าอี้นั่งรอ ประมาณ 7:30 น. ทุกคนจะเริ่มยืนและเดินเข้าไปรอในอาคาร * ข้อควรจำ: สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อเข้าไปในสถานกงสุล * เมื่อเข้าไปข้างใน พบเจ้าหน้าที่นำเอกสารที่ต้องใช้: ใบคำร้องขอวีซ่า, พาสปอร์ต, และบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่จะประทับตราวันนัดหมาย วันนัดหมายของเราคือ 7 วันหลังจากนั้น

วันที่ 2: การยื่นเอกสาร

* เราไปถึงตั้งแต่ 5 โมงเช้าเหมือนเดิม เพื่อเข้าคิว เราแนะนำให้ไปเช้าๆ เพราะถ้าไปสาย จะต้องรอนานกว่าเดิม, และถ้าไปยื่นใกล้เวลาพักเที่ยง หากมีเอกสารไม่ครบ จะแก้ไขไม่ทัน ต้องมายื่นใหม่ในช่วงบ่าย * เมื่อเข้าไปข้างใน เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบวันนัดหมายบนใบคำร้องขอวีซ่า และให้หมายเลขคิว เรานั่งรอและดูหมายเลขบนหน้าจอ, เรายื่นที่ช่อง 6 * เมื่อยื่นเอกสารเสร็จ ถ้าเอกสารครบ เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จให้เราไปจ่ายค่าธรรมเนียม และนัดวันรับผล * ถ้าเอกสารไม่ครบ มีร้านถ่ายเอกสารในสถานกงสุล แต่สังเกตว่าพวกเขาไม่รับถ่ายเอกสาร และมักจะแนะนำให้ไปถ่ายด้านนอก ดังนั้น ควรเตรียมเอกสารให้พร้อม, เกินดีกว่าขาด, โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้อยู่ใน HCM เมื่อเอกสารไม่ครบ จะต้องวิ่งไปวิ่งมาถ่ายเอกสารค่อนข้างยุ่งยาก * เอกสารต้นฉบับเจ้าหน้าที่จะคืนให้, จะเก็บสำเนาและพาสปอร์ตไว้ *

วันที่ 3: วันรับผลวีซ่า

* ระยะเวลาการรับผลวีซ่าในรอบของเราคือ 7 วันหลังจากวันที่ยื่นเอกสาร * วันที่นัดรับผล, ในใบนัดระบุเวลา 13:30 น. แต่เราต้องไปเข้าคิวตั้งแต่ 11:30 น. เนื่องจากมีผู้มายื่นเอกสารและมารับผลจำนวนมาก ในช่วงบ่ายอากาศค่อนข้างร้อน ควรเตรียมเสื้อคลุม, หมวก, พัด หรือพัดลมพกพาไปด้วย การขอวีซ่าด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งแรกที่ขอวีซ่าแบบติดสติกเกอร์ แถมยังไม่ได้ใช้บริการเอเจนซี่ ตอนแรกก็ค่อนข้างเครียดหน่อยๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยตรงที่ต้องลางาน/ไปสาย และเข้าคิวสองช่วงเช้า ถ้าใช้บริการเอเจนซี่ คุณไม่ต้องไปในวันแรก, เอเจนซี่จะเข้าคิวและจองวันนัดให้, คุณแค่ไปเข้าคิวในวันที่สองตอนยื่นเอกสาร, ตอนรับพาสปอร์ตคืน, เอเจนซี่ก็จะไปรับให้ ค่าบริการแต่ละที่ก็แตกต่างกันไป, ขึ้นอยู่กับการติดต่อและตกลงกับพวกเขา

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า