เกือบต้องกลับประเทศเพราะข้อผิดพลาดนี้ตอนต่อวีซ่านักเรียน! 😱
ด้วยความไม่รู้ ผมเคยเกือบต้องกลับประเทศเพราะไม่มี Bridging Visa หลังจากนั้นต้องทิ้งใบสมัครเก่าแล้วยื่นใบสมัครใหม่ เสียเงินเพิ่มอีก 1,600 AUD 💸
เพื่อไม่ให้เสียเงินโดยใช่เหตุเหมือนผม ทุกคนโปรดใส่ใจสิ่งต่อไปนี้เมื่อต่อวีซ่านักเรียน! 🇦🇺
1️⃣ จำเป็นต้องยื่นใบสมัครในออสเตรเลีย (เมื่อยังอยู่ในออสเตรเลีย) ⚖️
หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดเมื่อยื่นใบสมัครในออสเตรเลียคือคุณจะได้รับ Bridging Visa – ช่วยรักษาสถานะทางกฎหมายขณะรอวีซ่าใหม่
✅ ข้อได้เปรียบ:
- ไม่ต้องกังวลหากวีซ่าใหม่พิจารณาช้า ⏳ → คุณยังคงเรียนและทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- อัตราการอนุมัติสูงกว่าเมื่อยื่นนอกประเทศ เพราะเอกสารได้รับการพิจารณาที่สถานกงสุลออสเตรเลีย
⚠️ ข้อควรจำ:
- เมื่อยื่นในออสเตรเลีย คุณจะได้รับ Bridging Visa A (BVA)
- → BVA มีผลตั้งแต่เมื่อวีซ่าเก่าหมดอายุจนกว่าจะได้ผลวีซ่าใหม่
- → ในระหว่างนี้ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากออสเตรเลีย
✈️ หากต้องการออกจากออสเตรเลีย:
- คุณต้องขอ Bridging Visa B (BVB) – มีผลสูงสุด 1 ปี
- เงื่อนไข:
- ค่าธรรมเนียมขอวีซ่า: 165 AUD 💰
- มีตั๋วเครื่องบินไปกลับ ✈️
- มีเหตุผลที่ถูกต้อง (ท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัว ฯลฯ)
🌏 2️⃣ ถ้าคุณเผลอยื่นใบสมัครนอกประเทศล่ะ?
เมื่อยื่นนอกประเทศ (นอกออสเตรเลีย):
- ไม่ได้รับ Bridging Visa A
- ใบสมัครของคุณจะได้รับการพิจารณาเหมือนเป็นนักเรียนใหม่ทั้งหมด
- ➡️ ความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธสูงมาก
💡 อย่างไรก็ตาม:
- หากคุณกลับไปออสเตรเลีย คุณยังสามารถสมัคร Bridging A แยกต่างหากพร้อมใบสมัครวีซ่าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- แต่จำไว้ว่า: ไม่รับประกันเวลาในการพิจารณา Bridging A - อาจใช้เวลานาน ดังนั้นควรเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ!
3️⃣ ถ้าวีซ่าเก่าใกล้หมดแล้ว แต่ยังไม่มี Bridging ล่ะ?
👉 กล้าที่จะทิ้งใบสมัครเก่าแล้วยื่นใบสมัครใหม่!
เพราะถ้าไม่ยื่นใหม่ คุณจะต้องกลับประเทศ และสิ่งนี้อาจส่งผลต่อการขอวีซ่า 485 (Graduate Working Visa) หลังจากสำเร็จการศึกษา
🧠 หลายคนกังวลว่าการทิ้งใบสมัครจะมีผลเสีย - แต่มันไม่ใช่! สถานกงสุลไม่ได้มองว่าเป็น "รอยด่างพร้อย" ในใบสมัครของคุณ ดังนั้นจงใจเย็นๆ และจัดการกับมัน
🎓 หากทุกคนสนใจที่จะเรียนต่อในออสเตรเลีย 🇦🇺 มาร่วมกลุ่มเพื่อที่เราจะได้แบ่งปันประสบการณ์จริงเพิ่มเติม!
#GlobalPathways #ISB #CongdongduhocUc #StudyinAus #LifestyleAus
เครดิต: เหงียน คานห์ วัน
