กวม & ไซปัน: แชร์ประสบการณ์เที่ยวเกาะสวรรค์สไตล์แบกเป้ 1 สัปดาห์



ตะลุยเกาะสวรรค์กวม & ไซปัน ฉบับคนชอบเที่ยวเอง!

สวัสดีค่าทุกคน! เห็นในกลุ่มเราข้อมูลกวมกับไซปันน้อยมาก วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์เที่ยว 1 สัปดาห์เต็มๆ ที่ 2 เกาะนี้ให้เพื่อนๆ นะคะ รับรองว่าอ่านแล้วอยากเก็บกระเป๋าตามมาแน่นอน!

เรื่องแรก: วีซ่าอเมริกา ไม่ยากอย่างที่คิด!

หลายคนกังวลเรื่องวีซ่าอเมริกา บอกว่า "วีซ่ายากสุดๆ" แต่เราว่าไม่จริงเลยค่ะ! เราว่าวีซ่าอเมริกานี่แหละง่ายสุดในบรรดาวีซ่าที่ต้องแปะเล่ม เพราะแค่กรอก DS160 จ่ายเงิน แล้วไปสัมภาษณ์! เทียบกับวีซ่าเชงเก้นหรือไต้หวัน ยังต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะ แปลนู่นนี่นั่น ปวดหัวสุดๆ แค่ขั้นตอนไม่ยุ่งยากก็ให้คะแนนเต็มสิบแล้ว!

เคล็ดลับขอวีซ่าอเมริกาฉบับเรา

ตอนแรกใครๆ ก็บอกว่า "อย่าไปยื่นเลย เสียเงินเปล่า ไม่ได้หรอก" เพราะ: อายุยังน้อย, โสด, งานธรรมดา, ไม่มีทรัพย์สิน, แม้แต่ผู้จัดการยังไม่ผ่านเลย... สารพัดเหตุผลที่เราได้ยินจนเบื่อ แต่เราไปสัมภาษณ์ครั้งแรกก็ผ่านฉลุย! ไม่ถามเรื่องทรัพย์สินหรือบัญชีธนาคารเลย (แต่ถ้ามีก็เอาไปด้วยนะคะ) เราว่าสำคัญที่สุดคือ "ความมั่นใจ" ตอบตามความจริง ตอบคำถามอย่างมั่นใจ ถ้าเป็นไปได้ตอบเป็นภาษาอังกฤษเลยค่ะ ถึงแม้เจ้าหน้าที่เริ่มด้วยภาษาไทยก็ตาม

แล้วถ้าไม่ผ่านล่ะ?

หลายคนบอกว่าถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่าน แล้วข้อมูลไม่เปลี่ยน อย่าเพิ่งยื่นใหม่ แต่เราเห็นเพื่อนๆ หลายคนไม่ยอมแพ้ ยื่นใหม่หลังจากนั้นแค่ 1 สัปดาห์ (ข้อมูลเดิมเป๊ะ) เจอกรรมการคนใหม่ แล้วก็ผ่าน! มีคนบอกว่าตอนยื่นเอกสาร เค้าตัดสินไปแล้ว 70-80% ว่าเราจะได้หรือไม่ แต่เราไม่คิดอย่างนั้นนะ เพราะ DS160 ใครๆ ก็กรอกเหมือนกัน (ถ้าไม่ติด Blacklist หรือทำผิดกฎหมาย) ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ ครอบครัว รายได้ก็เป็น Optional ไม่ต้องแนบเอกสารการเงินหรือแผนเที่ยวตอนส่งฟอร์มด้วยซ้ำ เราเลยว่าตอนสัมภาษณ์สำคัญกว่าเยอะ!

ข้อควรระวัง!

* ยื่นขอไปกี่วัน ก็ควรไปตามนั้น! อย่าอยู่นานเกินไป ถึงแม้ตอนเข้าเมืองเค้าจะให้เราอยู่ได้ 6 เดือนก็ตาม เพราะตอนต่อวีซ่าอาจมีปัญหา เค้าอาจเรียกเราไปสัมภาษณ์ใหม่ และอาจถูกปฏิเสธได้! * ครั้งแรกเราบอกว่าจะไป 3 สัปดาห์ แต่ไปจริงอยู่ 3 เดือน เที่ยว 27 รัฐ! พอต่อวีซ่าครั้งต่อไปเลยโดนเรียกไปถาม "ทำไมบอกว่าจะไป 3 สัปดาห์ แต่อยู่ 3 เดือน ไม่มีใครอยากอยู่ในอเมริกาเพราะอเมริกาสวยหรอก" เราก็ไม่ชอบใจกรรมการคนนี้เหมือนกัน เพราะทำท่าทางดูถูก (เข้าไปไม่ทักไม่ทาย) เลยตอบไปว่า "อาจเป็นเพราะคุณเกิดและโตที่อเมริกาเลยชิน แต่ฉันมาจากเวียดนาม เพิ่งมาครั้งแรก อะไรๆ ก็แปลกใหม่ สวยงามไปหมด เหมือนคนบ้านนอกเข้ากรุงนั่นแหละ นี่อัลบั้มรูปที่ฉันไป 27 รัฐ ดูสิ ของจริง ไม่ได้ Photoshop ฉันมีตราประทับใน National Park Passport ด้วยนะ" เค้าดูรูปแล้วเปิด Passport ดูตราประทับ ถามว่า "นี่ที่ไหน มีอะไร" โชคดีที่เราสนใจประวัติศาสตร์ เลยได้โชว์ความรู้เต็มที่ เค้าเลยบอกว่า "ว้าว! ประทับใจมาก คนอเมริกันหลายคนยังไม่รู้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าอเมริกาสวย และผมเชื่ออย่างนั้น เที่ยวให้สนุกนะ" * อีกครั้งก็โดนเรียกเพราะอยู่นานเกินไป คราวนี้เค้าไม่ดูรูปที่เราเอาไปให้เลย ตอนนั้นคิดว่า "จบแล้วชีวิต" เราเลยบอกว่า "ตอนนั้นเพิ่งลาออกจากงาน เลยว่าง ไปเที่ยวนาน" เค้าถามว่า "ตอนนี้ทำงานหรือยัง" เราตอบว่า "ทำแล้ว ทำงานอิสระ ทำที่ออฟฟิศก็ได้ ทำออนไลน์ก็ได้ แล้วแต่โปรเจค เลยไปเที่ยวนานได้ แต่ก็ยังทำงานได้" เค้าก็บอกว่า "โอเค เที่ยวให้สนุกนะ" ==> มีอะไรก็พูดไปตามตรงเลยค่ะ * ยื่นเองเลย! ไม่ต้องผ่านเอเจนซี่ เพราะเค้าก็แค่กรอกฟอร์มให้เรา แต่ค่าบริการแพงเกินไป

กลับมาที่ กวม – ไซปัน!

เราแวะพักที่ฟิลิปปินส์ก่อน แล้วค่อยไปกวม ถ้าใครสนใจประวัติศาสตร์และอยากไปดูโบราณสถานควรไป แต่ถ้าอยากได้ที่สวยๆ ไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ อาจจะไม่ค่อยมี 2 เกาะนี้อยู่ได้ด้วยการท่องเที่ยว รายได้หลักมาจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน จีน ที่ไหนมีนักท่องเที่ยวจีน ที่นั่นก็จะมีคนจีนมาลงทุน เปิดโรงแรม ร้านอาหาร คาราโอเกะ... ค่อนข้างเสียงดังและวุ่นวาย เราจะเห็นรถเปิดประทุนสีชมพู ฟ้า เหลือง เต็มเกาะ ไว้ให้นักท่องเที่ยวจีน เกาหลีเช่า แล้วก็จอดแชะภาพกัน ที่กวมมีโรงแรมใหญ่ๆ อย่าง Westin, Sheraton... เราพัก Airbnb ราคาไม่เกิน $100/คืน ที่ไซปันหา Airbnb ไม่ได้ เลยเช่าโรงแรมชื่อญี่ปุ่นสุดๆ คิดว่าจะได้บริการแบบญี่ปุ่น แต่ปรากฏว่าหลอกลวงทั้งเพ! โรงแรมไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นเลย พูดแต่ภาษาจีน! สภาพก็เก่ามากกกกก เราเช่า SUV เพราะกะว่าจะไปแคมป์ปิ้งริมทะเล หรือนอนในรถ แต่ทั้ง 2 เกาะไม่มีที่ให้แคมป์เลย ห้องน้ำสาธารณะก็ไม่ค่อยดี อยากเปิดก็เปิด อยากปิดก็ปิด แถมเรารู้สึกว่าฮวงจุ้ยบนเกาะไม่ค่อยดี ไปที่ไหนก็ขนลุก ทะเลใสมาก แต่เพราะเป็นเกาะปะการังและหินปูน เวลาว่ายน้ำต้องระวัง ซื้ออุปกรณ์ Snorkeling ไปด้วยนะ มีที่ดำน้ำด้วย แต่คนจีนเยอะมาก เลยไม่ได้ไป ที่กวม นอกจากอนุสรณ์สถานทหาร หรือซาก B52 แล้ว มีที่เที่ยว: Fort Santo Angel, น้ำตก Talo Fo' Fo' + ถ้ำ Yokoi (ตั้งชื่อตามทหารญี่ปุ่นที่หนีเข้าไปอยู่ในถ้ำตอนสงคราม แล้วไม่รู้ว่าสงครามจบไปแล้ว อยู่ในถ้ำ 28 ปี จนมีคนไปเจอ), เขตอนุรักษ์สัตว์ป่า, 2 Lover Points ที่นักท่องเที่ยวซื้อกุญแจสีเขียวแดงไปคล้อง ส่วนที่ไซปัน ที่ไหนๆ ก็มีอนุสรณ์สถานทหารอเมริกัน ญี่ปุ่น เกาหลี แถมยังมีหน้าผา Banzai ที่ในสงครามดุเดือดเมื่อเช้าวันที่ 7/1944 ทหารญี่ปุ่นหลายพันคนจนมุม แล้วกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ส่วนแม่ทัพก็คว้านท้อง >.< คงเพราะแบบนี้มั้ง เวลาเดินเล่นรอบเกาะถึงรู้สึกขนลุก เหมือนมีพลังงานบางอย่าง รอบไซปันมีรีสอร์ทเยอะ แต่ก็มีบ้านร้างเยอะมาก น่ากลัวสุดๆ เคยเป็นสถานีเติมเสบียงให้เรือรบอเมริกัน แล้วถูกญี่ปุ่นยึดครองตั้งแต่ปี 1941 ต่อมาปี 1944 อเมริกาก็ยึดคืนได้ เลยมีคนญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์อยู่เยอะ นอกจากชาว Chamorro พื้นเมือง และตอนนี้คนจีนคงกำลังจะกลืนทั้ง 2 เกาะนี้ เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนเยอะ เลยมีคาสิโนและร้านแบรนด์เนมอย่าง Rolex, Hermes, LV... กวมเป็นจุดแรกที่ชาวเวียดนามกว่าแสนคนมาพักก่อนไปอเมริกา และปัจจุบันก็มีชุมชนคนเวียดนามอยู่ที่นี่และไซปัน เราสามารถหาร้านอาหารเวียดนามรอบเกาะได้ด้วยนะ

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า