วางแผนเที่ยวบาหลี 9 วัน 8 คืน สำหรับครอบครัว 4 คน (2 ผู้ใหญ่ + 2 เด็ก 8 & 10 ขวบ) ฉบับ "มุมมองส่วนตัว"
สวัสดีครับ/ค่ะ! วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การวางแผนเที่ยวบาหลี 9 วัน 8 คืน ฉบับละเอียดสำหรับครอบครัว 4 คน (พ่อแม่ 2 คน และลูกชาย 2 คน อายุ 8 และ 10 ขวบ) ในสไตล์ของผมเอง พร้อมเคล็ดลับและคำแนะนำจากประสบการณ์จริง เพื่อให้ทริปของท่านราบรื่นและสนุกสนานที่สุด
1. การวางแผนที่ละเอียด ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น:
ก่อนอื่นเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือการวางแผนและหาข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเส้นทาง, ที่พัก, สถานที่ท่องเที่ยว, กิจกรรมต่างๆ ไปจนถึงสภาพอากาศและค่าใช้จ่าย
- กำหนดจุดประสงค์หลัก: ไปบาหลีครั้งแรก หลายคนอาจจะงงๆ ว่าทำไมทะเลไม่สวยเหมือนที่เวียดนาม? หรือทำไมไปบาหลีแล้วรู้สึก "เฉยๆ"? นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้กำหนดจุดประสงค์ที่ชัดเจน บาหลีนั้นกว้างใหญ่กว่ากรุงเทพฯ ถึง 2 เท่า และใหญ่กว่าเกาะภูเก็ตถึง 10 เท่า! ดังนั้น การเดินทางจึงใช้เวลานาน, การจราจรติดขัด, อากาศร้อน หรือมีฝนตกบ่อยครั้ง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเบื่อได้ง่าย บาหลีมีทั้งทะเล, ป่า, ทะเลสาบ, น้ำตก, และภูเขา...เรียกได้ว่าครบทุกรสชาติ! ดังนั้น ต้องตัดสินใจก่อนว่าจะเน้นไปทางไหน: เน้นถ่ายรูป Check-in, พักผ่อนแบบ Luxury หรือผสมผสานทั้งสองอย่าง
- เลือกที่พักที่เหมาะสมกับการเดินทาง: เนื่องจากบาหลีมีขนาดใหญ่ การเลือกที่พักจึงสำคัญมาก เพราะต้องคำนึงถึงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ใช้เวลา 1-3 ชั่วโมงต่อการเดินทางแต่ละครั้ง (ยังไม่รวมเวลาติดขัด) ก่อนเดินทาง ผมใช้เวลาศึกษาข้อมูลและทำแผนที่ โดยแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็น 4 โซนหลักๆ ดังนี้:
- Ubud: คล้ายๆ กับเขาใหญ่ หรือเชียงใหม่ มีน้ำตก, นาขั้นบันได, และสถานที่พักผ่อนมากมาย
- Kuta, Canggu: แหล่งรวมความบันเทิง, ร้านอาหาร, และบาร์ต่างๆ
- Uluwatu, Nusa Dua: เป็นส่วนใต้ของเกาะ มีชายหาดที่สวยงาม และเงียบสงบกว่า
- Nusa Penida: เกาะที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ
- สรุปแผนการเดินทาง: ผมแบ่งทริป 9 วัน 8 คืน เป็น: Ubud 45% - Kuta 45% - Nusa Penida 10% (โดยที่พักคืนแรกที่ Ubud ไม่ได้นับเนื่องจากต้องต่อเครื่องจากสิงคโปร์และไปถึงโรงแรม 22:30 น.) โดยส่วนตัวแล้ว หากต้องการเล่นน้ำทะเล ควรเลือกพักที่ Kuta-Canggu, หากต้องการสำรวจธรรมชาติ ควรพักที่ Ubud, และ Nusa Penida ไม่ควรไปเช้าเย็นกลับ เพราะจะเหนื่อยมาก ควรพักค้างคืน (แต่ไม่ควรพักนานเกินไป)
- เช่ารถพร้อมคนขับส่วนตัว: ผมเคยคิดจะเช่ารถขับเอง แต่เปลี่ยนใจเพราะกลัวเหนื่อยกับการขับรถนานๆ (4-5 ชั่วโมง) และการจราจรที่ติดขัด แถมอากาศยังร้อนอีก! การเช่ารถพร้อมคนขับท้องถิ่น จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะคนขับจะทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งขับรถ, แนะนำสถานที่, หาของอร่อย, ช่วยขนสัมภาระ และถ่ายรูปให้เรา! ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ราคาไม่แพง (ประมาณ 800,000 - 1,500,000 IDR ต่อวันต่อคัน) ซึ่งถ้าหาร 4 คน ก็ตกคนละ 200,000 - 300,000 IDR เท่านั้น! ผมขอแนะนำทีม Wira + Bungsil Bali + Kadekmurah Nusapenidatour ซึ่งผมประทับใจมากๆ
- อินเทอร์เน็ต: อินเทอร์เน็ตที่บาหลีค่อนข้างช้า ทั้ง 4G และ Wi-Fi ในโรงแรม ผมแนะนำให้ซื้อซิมการ์ดของ Telkomsel หรือ XL เท่านั้น เพราะยี่ห้ออื่นสัญญาณไม่ดีและทำให้เปลืองแบตเตอรี่มือถือมาก
- เงินสด: บาหลีส่วนใหญ่ยังไม่นิยมใช้บัตรเครดิต ยกเว้นร้านอาหารใหญ่ๆ ดังนั้น ควรแลกเงิน USD ไปเยอะๆ และหาที่แลกเงินที่ให้เรทดีที่สุด
- สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง: สำหรับสถานที่ที่ต้องเดินทางไกล เช่น Lempuyang Temple หรือ Handara Gate ควรไปแต่เช้า (6:00 - 7:00 น.) เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อคิวนานๆ
- Diamond Beach: ถ้าใครแข็งแรง (อายุ 12-50 ปี) และไป Nusa Penida ควรลองลงไปเล่นน้ำที่ Diamond Beach เพราะสวยมากๆ! (เตรียมชุดว่ายน้ำ, น้ำดื่ม, และขนมไปด้วย)
- กิจกรรมอื่นๆ: บาหลีมีกิจกรรมสนุกๆ ราคาไม่แพง เช่น ล่องแพ, เล่นน้ำทะเล, โต้คลื่น 🏄, ขับรถ ATV หรือกิจกรรมผจญภัยอื่นๆ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพื่อลง Instagram หรือ Facebook อย่างเดียว ควรสนุกกับมันจริงๆ! และอย่ากลัวที่จะต่อรองราคา เพราะส่วนใหญ่จะตั้งราคาสูงไว้ก่อน
- เอกสารเข้าเมือง: ก่อนเดินทาง ควรทำเอกสารออนไลน์เพื่อเข้าประเทศล่วงหน้า 1-2 วัน เพื่อประหยัดเวลา เพียงแค่แสดง QR code ก็เรียบร้อยแล้ว
2. ตารางการเดินทางโดยละเอียด:
ผมแบ่งทริปออกเป็น 3 โซนหลักๆ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
A. 5 วัน 4 คืน ที่ Ubud:
เราพักโรงแรมในใจกลาง Ubud เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
- วันแรก: เดินทางถึงสนามบินบาหลีตอน 21:00 น. เนื่องจากต้องต่อเครื่องจากสิงคโปร์กว่าจะถึงโรงแรมก็ 23:30 น. เลยพักผ่อนเต็มที่
- วันที่สอง: ตื่นเช้าไปถ่ายรูปที่ Handara Gate, จากนั้นไปเล่นน้ำตก Banyumala Twin Waterfall แล้วไปทานอาหารกลางวัน ตอนบ่ายไป Monkey Forest ชมลิง จากนั้นไปเดินเล่นที่ตลาด Ubud และทานอาหารเย็น
- วันที่สาม: ไปถ่ายรูปที่ Lempuyang Temple (ประตูสวรรค์), ทานอาหารกลางวัน, ไป Tirta Gingga (สวนน้ำศักดิ์สิทธิ์) ช่วงบ่ายไปเล่นน้ำตก Tegenungan, เล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ และทานอาหารเย็นที่ร้าน Omma (ร้านอาหารสวยมาก)
- วันที่สี่: ไปล่องแพที่ Ayung River (กิจกรรมที่คุ้มค่ามากๆ!), ทานอาหารกลางวันที่นั่น (รวมอยู่ในแพ็คเกจ) หลังจากนั้นไป Tirta Empul Temple (วัดน้ำศักดิ์สิทธิ์) และไป Alas Harum (Cretya Ubud) เพื่อชมวิวนาขั้นบันได แต่เนื่องจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่สามารถว่ายน้ำได้ จึงเปลี่ยนไปทานอาหารเย็นและชมพระอาทิตย์ตกดินที่ Cretya Sunset (เจ้าของเดียวกับ Cretya Ubud)
B. 2 วัน 1 คืน ที่เกาะ Nusa Penida:
- วันที่ห้า: เช็คเอาท์จากโรงแรมใน Ubud ตั้งแต่ 7:30 น. เดินทางไปท่าเรือ Sanur เพื่อขึ้นเรือไป Nusa Penida รอบเช้าสุด (9:00 น.) เนื่องจากมีกระเป๋าเดินทางเยอะ ผมฝากกระเป๋าบางส่วนไว้กับคนขับรถที่บาหลี และนำกระเป๋าใบเล็กๆ ไปด้วย ไปถึง Nusa Penida ก็ตรงดิ่งไป Diamond Beach เพื่อทานอาหารกลางวัน และเล่นน้ำทะเลทั้งบ่าย
- วันที่หก: ไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ทางตะวันตกของ Nusa Penida เช่น Kelingking beach (หาดรูปไดโนเสาร์), Crystal Bay (เล่นน้ำ, ดำน้ำ), ทานอาหารกลางวัน, ไป Broken Beach & Angel's Billabong, จากนั้นขึ้นเรือกลับบาหลีตอน 16:00 น. เช็คอินเข้าพักที่โรงแรมใน Kuta และพักผ่อนทานอาหารเย็น
C. 3 วัน 4 คืน ที่ Kuta & ทางใต้ของบาหลี:
- วันที่เจ็ด: ไปเที่ยว Tanah Loh Temple (วัดกลางทะเล), จากนั้นไป Seminyak ช้อปปิ้งและนวดตัว ตอนบ่ายไปเล่นน้ำทะเลและเรียนโต้คลื่นที่ Kuta, ทานอาหารเย็น
- วันที่แปด: ตอนเช้าไปเล่นกิจกรรมทางน้ำที่ Nusa Dua (ร่มชูชีพ, ฯลฯ) จากนั้นไปเที่ยวเกาะเต่า ทานอาหารกลางวัน, ไป Pantai Barak ถ่ายรูป, ไป Uluwatu Temple และเล่นน้ำที่ Suluban beach
- วันที่เก้า: เช็คเอาท์ เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย
ด้านล่างนี้ ผมจะแนบรูปภาพและวิดีโอของสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรีวิวละเอียดๆ อีกมากมายใน TikTok/Instagram/Google/Youtube/Facebook ลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้นะครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทางไปบาหลีนะครับ!
```