ปราก - เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก
ประวัติศาสตร์โดยย่อ:
- ก่อนปี 1993 สาธารณรัฐเช็กและสโลวะเกียเคยรวมกันเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐเช็ก-สโลวะเกีย (หรือที่คนไทยคุ้นเคยในชื่อเชโกสโลวะเกีย)
- สาธารณรัฐเช็กมีพื้นที่ประมาณ 78,000 ตร.กม. และมีประชากรประมาณ 10.5 ล้านคน
- ประเทศเช็กเริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 9
- ในปี 1526 ถูกรวมเข้ากับจักรวรรดิฮาบส์บูร์ก (ออสเตรีย) และในปี 1867 ถูกรวมเข้ากับจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
- หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เช็กและสโลวะเกียแยกตัวออกจากจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และรวมตัวกันเป็นประเทศเชโกสโลวะเกีย
เสน่ห์แห่งปราก: รอดพ้นจากสงครามและสถาปัตยกรรมหลากหลาย
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,100 ปี ปรากได้รับการอนุรักษ์ไว้เกือบทั้งหมดและไม่ถูกทำลายโดยสงคราม ยุโรปถูกทำลายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปรากก็รอดพ้นมาได้เช่นกัน โดยถูกทิ้งระเบิดเพียงครั้งเดียวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1945 เมื่อเครื่องบินอังกฤษและอเมริกันเกือบ 100 ลำบินไปทิ้งระเบิดที่เดรสเดน แต่กลับเข้าใจผิดคิดว่าปรากเป็นเดรสเดน 😂 โชคดีที่ระเบิดไม่ตกลงกลางใจเมือง แต่ตกในพื้นที่ใกล้เคียง ระเบิดที่ตกลงใกล้ใจกลางเมืองที่สุดคือตกใส่ Dancing House อันโด่งดัง
เนื่องจากการอนุรักษ์ที่สมบูรณ์แบบ ปรากจึงมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม ตั้งแต่โรแมนติก โกธิค บาโรก เรเนซองส์ ไปจนถึงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันของอารยธรรมยุโรป และย่านอนุรักษ์ของชาวยิวอีกด้วย
ย่านเมืองเก่าของปรากเป็นหนึ่งในกลุ่มอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 890 เฮกตาร์ และมีอนุสรณ์สถานแห่งชาติเกือบ 2,000 แห่ง
ธรรมชาติและประชากร:
แม้จะเก่าแก่และมีอนุสรณ์สถานมากมาย แต่ปรากก็มีต้นไม้เขียวขจีมากมาย ปรากมีอัตราส่วนต้นไม้เขียวขจีสูงที่สุดในบรรดาเมืองหลวงทั่วโลก โดย 57% ของพื้นที่ปรากเป็นพื้นที่สีเขียว ด้วยพื้นที่กว่า 500 ตร.กม. การเดินทางจากต้นทางหนึ่งไปยังอีกต้นทางหนึ่งใช้เวลาประมาณ 20-30 กม. แต่ปรากมีประชากรเพียงประมาณ 1.2 ล้านคน
ชื่อเล่นของปราก:
ปรากได้รับการขนานนามว่าเป็นหัวใจของยุโรป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำเลที่ตั้ง ในอดีต ปรากยังถูกเรียกว่าเมืองสีทองเนื่องจากความมั่งคั่ง ชาวเช็กเรียกปรากว่าเมืองแห่ง 100 ยอด เพราะสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์คือยอดแหลมบนยอดอาคารต่างๆ
ชุมชนชาวเวียดนามในปราก:
มีชาวเวียดนามจำนวนมากอาศัยและทำงานอยู่ที่นี่ในสาธารณรัฐเช็ก ประมาณ 60,000 คน เฉพาะในปรากมีประมาณ 15,000 คน ดังนั้นคุณจะพบร้านค้าที่ขายอาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก และร้านอาหารของชาวเวียดนามมากมายในใจกลางกรุงปราก เมื่อพูดถึงชาวเวียดนามในปราก เราต้องพูดถึงตลาด Sapa ที่นี่เป็นฮานอยขนาดย่อม คุณสามารถมาที่นี่ได้โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย C ไปยังสถานี Kacerov แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสาย 113 ไปยังสถานี Sidliste Pisnice แล้วลง
สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด:
- ปราสาทปราก (Prague Castle)
- ย่าน Mala Strana (Lesser Town)
- สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge)
- จัตุรัสเมืองเก่าและนาฬิกาดาราศาสตร์ Orloj (Old Town Square and Astronomical Clock)
- เนิน Petrin (Petrin Hill) พร้อมหอไอเฟลจำลองและสวนกุหลาบที่มีชื่อเสียง
- ย่านชาวยิว Josefov
- ถนนปารีส (Paris Street)
- ศาลาเทศบาล (Municipal House)
- จัตุรัสเวนเซสลาส (Wenceslas Square)
- พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National Museum)
แน่นอนว่ายังมีสถานที่ให้ไปอีกมากมาย แต่ต้องใช้เวลามากกว่านี้ สถานที่เหล่านี้คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนปราก
ชาวเวียดนามในเช็กมีความสามารถในการสร้างภาพทุกสิ่งและตั้งชื่อด้วยวิธีของตนเอง สะพานชาร์ลส์ถูกเรียกว่าสะพานแห่งความรัก นาฬิกาดาราศาสตร์ถูกเรียกว่านาฬิกาไก่ เพราะด้านบนของนาฬิกามีไก่สีทอง และจัตุรัสเมืองเก่าก็ถูกชาวเวียดนามเรียกว่าจัตุรัสไก่ 😅 จัตุรัสเวนเซสลาส เนื่องจากมีรูปปั้นกษัตริย์องค์แรกของเช็กนั่งอยู่บนหลังม้า ทุกคนจึงเรียกว่าจัตุรัสม้า ตลาด Holesovice เก่าเนื่องจากมีรูปปั้นวัว จึงเรียกว่าตลาดวัว 😂
วัฒนธรรมการดื่มเบียร์:
เมื่อมาถึงปราก คุณควรใช้เวลาชิมเบียร์ของเช็ก ชาวเช็กเป็นอันดับหนึ่งของโลกในด้านปริมาณการบริโภคเบียร์ต่อหัว
อาหารพิเศษ:
อาหารพิเศษของชาวเช็ก ได้แก่ ซุปกระเพาะวัว (Trip Soup) และเนื้อรมควันทานกับขนมปังขาวและกะหล่ำปลีดอง (Smoked Pork Neck, Cabbage Dumpling)
หากไม่ถูกปากอาหารเช็ก คุณสามารถแวะไปที่ตลาด Sapa ได้ ที่ตลาด Sapa มีอาหารเกือบทุกชนิดในฮานอย: เฝอ บั๋นก๊วน บุ้นก๋า บุ้นกัว ไก่ย่าง ฯลฯ
```